Friday, December 19, 2014

Work and Travel คุ้มจริงหรือ?

ต้องขออภัย หากโพ้สนี้เป็นที่ขัดใจของน้องๆ นักล่าฝันหลายๆ คน ที่อยากจะมาสัมผัสชีวิตในอเมริกา โดยทำงานหาเงินเอง ขณะปิดเทอม บ้างฝันว่าจะมีเงินเป็นกอบเป็นกำกลับบ้านไปอวดใคร มันเป็นสิ่งที่ดีค่ะ มีสขอสนับสนุนเด็กๆ วัยเรียนมหาลัยให้รู้จักหาเงิน และให้รู้จักใช้เงินที่ตัวเองหา เหมือนอย่างเด็กที่โตเมืองนอก ลำบากนะ แต่ว่าหากขยัน อดทน เก็บออมก็จะได้ดี 

คำถามคือ คุ้มไหมที่จะไปอเมริกาผ่านเอเจนซี่ เสียเงินเหยียบแสน แถมค่าเครื่องบินอีกหลายหมื่น ต้องขอบอกแบบนี้นะค่ะ แบบเป็นกลางๆ ถ้าอยากได้ประสบการณ์แล้วทางบ้านมีเงินมากพอ ไม่เดือดร้อนอะไร ก็ไปได้ค่ะ เพราะอะไร มาลองติดตามดู 

เมื่อต้นปี มีสได้มีโอกาสได้ต้อนรับนักศึกษาแพทย์ 3 คนจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งตอนแรกเขาทั้ง 3 คนตั้งใจจะไปอเมริกาแบบ work and travel แต่เพราะอีกสองคนนั้นสอบสัมภาษณ์ไม่่ผ่าน จึงได้เปลี่ยนมาเป็นการขอวีซ่าแบบท่องเที่ยวแทน พวกเขาโชคดี ที่หนึ่งในนักศึกษาเป็นคนที่รู้จักมักจี่กับครอบครัวมีสที่อยู่เมืองไทย เสมือนเป็นญาติกันก็ว่าได้ น้องทีได้ทำการติดต่อนั่นนี่ จนได้ไปอเมริกาสำเร็จ แต่พวกเขาไม่ใช่นักศึกษาเพียงกลุ่มเดียวที่ไปอเมริกาเพื่อทำงาน เพื่อนๆ ของพวกเขาอีกหลายคนที่ไป โดยเพื่อนสาวเหล่านั้นไปในโครงการ work and travel เอาหละค่ะมาถึงตรงนี้เราก็จะได้ทำการเปรียบเทียบกันแล้วว่า คุ้มหรือไม่ 

กลุ่มของน้องที 3 คนไปด้วยวีซ่าท่องเที่ยว ไปถึงก็ไปทำงานที่ร้านอาหารไทยที่คนรู้จักเป็นเจ้าของ ฝากให้ทำงานในครัว เป็นผู้ช่วยในครัว ซึ่งรายได้ก็ตกวันละ $65-$75 ต่อวัน รวมทิปส์ รับเงินสด งานค่อนข้างหนัก จะพูดตรงๆ ก็คือวีซ่าท่องเที่ยวไม่สามารถทำงานอะไรแบบนี้ได้อยู่แล้ว ก็ต้องรับเงินใต้โต๊ะ แต่ว่ารายได้ก็ทำเอาเด็กๆ ตื่นเต้นกันเลยทีเดียว น้องชายมีส ทำหน้าที่รับส่ง บางทีมีสกับน้องสาวก็ทำหน้าที่เป็นสารถีรับส่ง และพาเที่ยวบ้างสลับกัน กินอยู่กับที่ร้านอาหารไทย สบายๆ  ส่วนค่าเช่าบ้านก็แค่นิดหน่อย พอค่าน้ำค่าไฟเท่านั้นที่เราเรียกเก็บกับน้องๆ แต่ในขณะที่เพื่อนน้องที ที่ไปแบบวีซ่า J1 work and travel ต่างกัน

น้องเล่าว่า เข้าโครงการ work and travel เอเจนซี่ขอเกือบแสนในการเข้า และต้องผ่านสัมภาษณ์ด้วย นี่ไม่รวมค่าเครื่องบินและค่าใช้จ่ายส่วนตัวแต่อย่างใด กระบวนการคือ น้องๆ ที่ผ่านการสัมภาษณ์ จะมีคนทางฝั่งอเมริกามารับเข้าทำงาน มีที่พักที่ติดไว้ให้แล้ว แต่ว่าต้องจ่ายค่าเช่าเอง อะไรต่างๆ เอง หลังจากที่ไปถึงอเมริกาก็ใช่ว่าจะได้ทำงานได้เงินเลยทันที อย่างน้อยต้องรอ 1-2 สัปดาห์ เพื่อที่จะเข้าไปทำงาน แต่ก็อย่าลืมว่าระหว่างนั้นต้องมีค่าใช้จ่าย รวมถึงค่าเช่าบ้านด้วยนะค่ะ 
ปัญหาไม่จบแค่นั้น หากโชคร้ายงานที่ทำนั้น ไม่พอใจขึ้นมา ก็สามารถไล่เราออกได้ ในกรณีของเพื่อนของน้องทีก็เป็นเช่นนั้น เพราะไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีนัก เขาจึงไล่ออก จากนั้นก็งานเข้าอีก เพราะฝ่ายเอเจนซี่ที่ไทยต้องทำการหางานให้ใหม่ ซึ่งมันก็ต้องใช้เวลาพอสมควร สรุปคุณพ่อ คุณแม่ทางบ้านส่งเงินไปให้ เพราะค่าใช้จ่ายไม่พอ 

ถามว่า ไปได้อะไร แน่นอนได้ประสบการณ์แสนมีค่า แต่ทางที่ดี มีสอยากแนะนำว่า หากอยากได้ประสบการณ์จริงๆ ถ้ามีคนรู้จักที่อเมริกาน่าจะดีกว่า เพราะว่าเราได้ทำงานอยู่แล้ว หากไม่เกี่ยงงาน แต่เพราะภาษาเราไม่ได้ ความเสี่ยงมันมีมากกว่า จะว่าน้องๆ อ่อนต่อโลกก็คงไม่ใช่สะทีเดียว แต่กันเหนียวจะดีกว่า ไป work and travel มันไม่ได้การันตีอะไร 






No comments:

Post a Comment

กรุณาใช้ข้อความที่เหมาะสม เพื่อความสุขสงบในอารมณ์ของผู้อ่านและแอดมินนะค่ะ